เบื้องหลังความงามคือแรงบันดาลใจ

‘คุณหมอซี – นพ.ธนรัตน์ ใบเจริญโรจน์’ และ ‘คุณหญิง – สุชาดา เจริญขำ’ เจ้าของช่อง หมอซี Dr.C.Official ให้ความรู้ #หมอซีแชร์ความรู้ กว่า 80 ล้านวิว ผู้ก่อตั้งหมอซี Dr.inspireinloveindy clinic ควงคู่กันมาเผยถึงเบื้องหลังการทำงานที่ได้ผ่านบททดสอบครั้งสำคัญในชีวิต

เรียกว่าได้กำลังใจอย่างล้นหลาม สำหรับหมอซี คุณหมอพ่อลูกสามขวัญใจชาว TikTok ที่กลับมาทำหัตถการได้อีกครั้ง หลังจากผ่านขั้นตอนการรักษาและฟื้นฟูร่างกายที่ได้รับผลกระทบจากโรคหลอดเลือดสมอง

กลับมารันวงการอีกครั้งพร้อมกำลังใจเต็มเปี่ยม

 “ช่วงเดือนเมษายน 2566 ผมป่วยด้วยโรคสโตรก แขนขวา ขาขวา Motor Power Grade 0 และพูดไม่ได้เลย ทั้งที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงเลย ไม่มีเบาหวาน ความดัน ไขมัน เคยตรวจคลื่นไฟฟ้า EKG และวิ่งสายพานปกติ แต่หลังจากที่ได้รักษาและทำกายภาพบำบัด ก็เริ่มกลับมาทำงานได้ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยปัจจุบันได้เปลี่ยนมาดูแลคนไข้ด้วยมือซ้าย ซึ่งก็ได้ภรรยาที่เต็มใจทำหน้าที่เป็นคนไข้ทดลองคนแรกให้ หลังจากฝึกมือกับผิวเทียมจนคุ้นชิน แล้วผลการฉีดฟิลเลอร์ในครั้งนั้นก็ออกมาดี”

“ย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ผมอ่อนแอที่สุด นอกจากภรรยาและลูกทั้งสามคนที่คอยให้กำลังใจอยู่เสมอ ก็ยังมีหลายคนในวงการเดียวกันที่เป็นแรงผลักดัน อย่างอาจารย์มาศ (นพ.มาศ ไม้ประเสริฐ) ได้มีโอกาสพบท่านในงานประชุมนำเสนอไฮบริดฟิลเลอร์ที่โรงพยาบาลศิริราช ท่านบอกกับผมว่า “จะมือซ้ายหรือมือขวาก็ฉีดได้เหมือนกัน” ประโยคนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผมอย่างมาก”

บททดสอบสำคัญของชีวิตคู่

ไม่เพียงหมอซีที่ต้องผ่านบททดสอบครั้งสำคัญในชีวิต คุณหญิงก็ได้เปลี่ยนบทบาทจากคู่ชีวิต และคุณแม่ของลูกๆ มาเป็นผู้บริหารคลินิกอย่างเต็มตัว

“ช่วงที่หมอซีป่วย หญิงต้องเข้ามาดูแลคลินิกมากขึ้น ซึ่งเรื่องหนึ่งที่ทำมาตลอดหลายเดือน คือการพาเขาไปร่วมงานประชุมต่างๆ ตั้งแต่ตอนที่หมอซียังพูดไม่ได้ ก็จะทำหน้าที่สื่อสารแทนให้ สิ่งที่ได้จากการร่วมประชุม คือการได้เรียนรู้ เห็นการสาธิตผลิตภัณฑ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงการฟังบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญ ทั้งหมดทำให้หญิงได้พัฒนาตัวเองไปในตัว”

“อีกส่วนหนึ่งที่ได้เข้าไปช่วยอย่างจริงจังมากขึ้น เป็นช่อง TikTok หมอซี Dr.C.Official ก่อนหน้าคุณหมอซีจะทำหน้าที่ไลฟ์เป็นหลัก แต่ตอนนี้จะเห็นว่าหญิงมาช่วยไลฟ์ตลอด ช่วงแรกยอมรับว่าเครียดเหมือนกัน เพราะคนยังไม่รู้จักเรา และตัวหญิงก็ไม่ได้เป็นหมอด้วย จนมาถึงวันนี้รู้สึกสนุกและมีความสุขกับการไลฟ์ ส่วนผู้ติดตามก็เริ่มคุ้นชินกันมากขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะนำเสนอคอนเทนต์อะไร ทุกคนก็พร้อมจะสนับสนุน”

ไฮบริดฟิลเลอร์ หัตถการมาแรงของคลินิก

เมื่อถามเพิ่มเติมถึงบิวตี้ไอเท็มที่หมอซีและคุณหญิงยกให้เป็นดาวเด่นของคลินิกในช่วงเวลานี้ ทั้งคู่เห็นตรงกันว่าไฮบริดฟิลเลอร์เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นด้วยหลากหลายคุณสมบัติ

“อย่างที่เล่าไปข้างต้นว่าผมชอบไฮบริดฟิลเลอร์มานาน และยังมีโอกาสได้พบกับ Mr. Alessando Gariboldi นักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาลีในปี 2565 เขาได้มาพรีเซนต์เรื่องของ PEG ที่มีความปลอดภัย 100% ไม่มีผลข้างเคียง ซึ่งฟิลเลอร์นี้เลือกใช้ PEG มาเป็นสาร Cross Link แทน BDDE และเมื่อผสานกับ Calcium Hydroxyapatite คนไข้จะไม่ได้รับไปแค่การเติมเต็ม แต่ยังได้เสริมความแข็งแรงให้ผิว ทั้งยังช่วยลดโอกาสการเกิดปฏิกิริยาที่เป็นพิษต่อผิวด้วย”

“และแน่นอนว่าถ้าหมอได้ใช้ฟิลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพดี ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณมากๆ โดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งตรงกับหลักในการฉีดฟิลเลอร์ส่วนตัว คือ 1. ฉีดน้อย ในหน้าคนไข้ 1 เคส เฉลี่ย 4-5 cc/เคส เช่น ขมับ ขอบเบ้าตา ร่องฟันเขี้ยว แก้มตอบ ร่องน้ำหมาก คาง โดยเฉลี่ยจุดละ 0.2-0.5 cc ต่อข้าง เคยมีคนไข้ฉีดมาที่อื่นเฉพาะหน้าผาก 10 cc ผ่านมา 2 ปีกว่าสลายหมด มาหาที่หมอซีก็ฉีดหน้าผากให้ 1 cc คนไข้ปลื้มมาก 2.  ฉีดลึก วาง Filler เสริมกระดูก อายุ 30 กระดูกเราสึกไปเรื่อยๆ ถ้าเราไม่เสริมกระดูกก็เหมือนอยู่บ้านที่เสาเข็มทรุด โดยเฉพาะใต้ตาถ้าฉีด Filler ที่ใต้ผิวโอกาสเป็นก้อนสูงมาก แต่เสริมกระดูกขอบเบ้าตาจะปลอดภัยกว่า 3. Filler ต้องดี จะต้องไม่บวมๆยุบๆ บางคนฉีดเป็นปี 3-5 ปี ยังบวมๆยุบๆเลย จะต้องเรียบสวย ละมุน” หมอซีกล่าว ก่อนที่คุณหญิงจะกล่าวเสริมปิดท้าย หมอซีได้รับรางวัล Top Achiever of PEG Filler ต้นปี 67

“อีกคุณสมบัติที่มีความโดดเด่น คือการทนความร้อน ทำให้คนไข้สามารถใช้เครื่องมือที่มีความร้อนสูงต่อทันที แถม PEG และ CaHA ที่มีอยู่ในไฮบริดฟิลเลอร์ยังได้รับรางวัล Best Injectable Dermal Filler ในงาน AMWC 2024 Aesthetic Medicine Award ไฮบริดฟิลเลอร์เลยกลายเป็นตัวเลือกของใครหลายคน โดยเฉพาะชาว tiktok ที่ได้เห็นรีวิวกันเยอะมากตั้งแต่ปีที่แล้วมาจนถึงปีนี้”

เทคนิคในการเลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะกับแต่ละบริเวณ

บริเวณขมับ หน้าผาก และคาง จะเลือกใช้ Neauvia Filler รุ่น Intense LV เพราะต้องใช้แรงยกที่กระดูก แต่จะไม่หนักเกินไป ส่วนบริเวณขอบกระดูกบริเวณเบ้าตา และร่องฟันเขี้ยว จะใช้รุ่น Intense

ขณะที่ริ้วรอยตื้นๆ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก แก้มตอบ จะใช้รุ่น Stimulate และสุดท้ายสำหรับงานผิวที่กำลังมาแรงสุดๆ คุณหมอซีจะเลือกใช้รุ่น Hydro Deluxe ที่ใช้ได้ทั้งกับบริเวณใบหน้า ลำคอ และใต้ตา ซึ่งเป็นจุดที่ฟิลเลอร์รุ่นอื่นๆ จะไม่ได้ช่วยให้เส้นหรือความหมองคล้ำของใต้ตาหายไป แต่รุ่นนี้จะช่วยเก็บงานผิวเล็กๆ จากใต้ตาที่คล้ำ ก็จะเห็นเลยว่าสว่างขึ้น และถ้าใช้ทั่วหน้าจะช่วยเก็บรูขุมขนกว้าง หลุมสิว ได้ครอบคลุม